สเปอร์ส เตรียมแต่งตั้งกุนซืออชาวออสเตรเลียคุมทัพ
ทีมไก่เดือยทอง กำลังจะได้ตัวโค้ช เซลติก มาคุมทีม
หลังจากผลงานที่ย่ำแย่ของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในฤดูกาลที่ผ่านมา จึงทำให้ตอนนี้ทีมนั้นต้องมองหากุนซือคนใหม่เข้ามาคุมทัพเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ ทีมไก่เดือยทองก็เตรียมที่จะประกาศแต่งตั้งกุนซือคนใหม่ ชาวออสเตรเลียให้มาคุมทัพในฤดูกาลหน้านี้ และตอนนี้การพูดคุยรายละเอียดต่างๆก็เป็นไปในทางที่ดี และตอนนี้สเปอร์สก็เตรียมที่จะแต่งตั้งอังเก้ ปอสเตโคกลู
เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ ซึ่งในสัญญามีการเปิดเผยอีกว่านายใหญ่คนใหม่จะเข้ามาคุ้มครับเป็นระยะเวลาถึง 4 ปี ซึ่งตัวของอังเก้จะเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยในฤดูกาลที่ผ่านมาสเปอร์สได้แยกทางกับยอดกุนซือชาวอิตาลีอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ไปในช่วงก่อนจบฤดูกาลและได้ให้ คริสเตียน สเตลลินี กับ ไรอัน เมสัน
ซึ่งเป็นผู้ช่วยในขณะนั้นเข้ามาคุมทัพไปก่อน และตอนนี้สเปอร์สก็กำลังจะประกาศอย่างเป็นทางการว่าทีมจะได้ยอดกุนซือชาวออสเตรเลียอย่าง อังเก้ ปอสเตโคกลู มาคุมทัพ โดยเจ้าตัวนั้นได้ช่างผลงานในเวทียุโรปกับทีม กลาสโกว์ เซลติก ได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา และตอนนี้เจ้าตัวก็เป็นคนที่เหมาะสมจะเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ ของทีมไก่เดือยทองในฤดูกาลหน้า
และตอนนี้ทางสโมสรก็มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง อังเก้ ปอสเตโคกลู เข้ามาเป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่ของทีม จากการประกาศของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และการเซ็นสัญญามาคุมทัพในครั้งนี้ จะทำให้เจ้าตัวเป็นผู้จัดการทีมชาวออสเตรเลียคนแรก ที่ได้รับโอกาสมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีก ด้วยตัวของอังเก้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีม ที่มีผลงานดีที่สุดในขณะนี้อีกคนหนึ่ง
โดยเจ้าตัวนั้นได้เริ่มต้นคุมทัพในทีมบ้านเกิดของเขาที่ออสเตรเลีย ก่อนที่จะขยับขยายย้ายออกมาคุมทีมในญี่ปุ่นกับทีม โยโกฮามา เอฟ มารินอส และเจ้าตัวยังสามารถพาทีมนั้นคว้าแชมป์มาครองได้ในฤดูกาล 2018-2019 อีกด้วย ซึ่งในทีมชุดนั้นของเจ้าตัวก็มีแนวรับทีมชาติไทยอย่าง ธีราทร บุญมาทัน อยู่ในทีมของเจ้าตัวอีกด้วย และหลังจากที่เจ้าตัวย้ายจากญี่ปุ่นเพื่อมาคุมทัพ กลาสโกว์ เซลติก
ซึ่งเป็นทีมล่าสุดของเจ้าตัวแถมยังสามารถพาทีมนั้นคว้าแชมป์ลีกได้อีกถึง 2 สมัย เท่านั้นยังไม่พอเจ้าตัวยังพาทีมนั้นคว้าแชมป์ลีกคัพได้อีก 2 สมัยรวมไปถึงแชมป์สกอตติชคัพได้อีก 1 สมัย ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกล่าสุด
อ่านเพิ่มเติม ข่าวฟุตบอล
แหล่งที่มาจากเว็บไซต์ ไทยรัฐ