รวมนักเตะที่ฟอร์มดี ในพรีเมียร์ลีก ครึ่งฤดูกาลแรก

การแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีในฤดูกาล 2022-2023 ได้ดำเนินมาถึงครึ่งทางเรียบร้อยแล้วก่อนจะพักเบรกให้กับโปรแกรมฟุตบอลโลก และวันนี้ได้เลือกนักเตะที่ทำผลงานได้ดีมาจัดทีมยอดเยี่ยมของครึ่งฤดูกาลแรก จะมีใครกันบ้าง ตามเช็คได้ที่นี่ ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-2023 ได้ทำการแข่งขันกันมาถึงครึ่งทางเรียบร้อยแล้ว

ก่อนที่จะพักเบรกประมาณ 1 เดือนเพื่อหลีกทางให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ และได้คัดเลือก 11 นักเตะที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้มาจัดเป็น Best XI หรือว่าทีมยอดเยี่ยมประจำครึ่งฤดูกาลแรก จะมีใครกันบ้าง? ตรงกับที่หลาย ๆ คนคิดกันหรือเปล่า? ตามเช็คได้ที่นี่

ผู้รักษาประตู : นิค โป๊ป – นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

นายด่านจอมหนึบวัย 30 ปี เพิ่งย้ายจาก เบิร์นลีย์ ที่ตกชั้นลงไปเล่นในเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาอยู่กับทัพสาลิกาดงยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ในฤดูกาลนี้ด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งเขายังคงงัดฟอร์มเหนียวหนึบของตัวเองออกมาใช้ได้ในฤดูกาลนี้ ทำให้เขายึดตำแหน่งมือ 1 ของทีมไปเป็นที่เรียบร้อย

โดย โป๊ป มีสถิติที่ถือว่ายอดเยี่ยมสุด ๆ หลังเขาเสียไปเพียงแค่ 7 ประตูเท่านั้นและเก็บคลีนชีทได้ถึง 8 นัดจากการลงเล่นทั้งหมด 16 นัดทุกรายการ และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เดอะ แม็กพาย ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มีแต้มห่างจากจ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล เพียงแค่ 7 คะแนนเท่านั้น

แบ็คขวา : คีแรน ทริปเปียร์ – นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

แนวรับเลือดผู้ดีรายนี้ หลังจากคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน กับ แอตเลติโก้ มาดริด ได้ในฤดูกาล 2020-2021 เขาได้ย้ายกลับมาเล่นในเวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ นิวคาสเซิล ในฤดูกาลที่แล้ว ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บหนักไป ทว่า ในฤดูกาลนี้ เขาสลัดจากอาการบาดเจ็บและกลับมามีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทั้งเกมรับและเกมรุก หรือแม้กระทั่งลูกเก่งที่เป็นทีเด็ดของดาวเตะรายนี้อย่างลูกตั้งเตะกับการวางบอลที่แม่นยำ

ก็ยังมีให้เห็นอยู่ตลอดแม้ว่าเจ้าตัวจะมีอายุ 32 ปีเข้าไปแล้ว แถมล่าสุดเขายังมีรายชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 อีกต่างหาก นอกจากนี้ ทริปเปียร์ ยังเป็นส่วนสำคัญที่พาทัพสาลิกาดงเก็บคลีนชีทได้ถึง 8 ครั้งในครึ่งฤดูกาลแรก แถมยังช่วยให้ต้นสังกัดของเขาขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางก่อนช่วงพักเบรกฟุตบอลโลกอีกด้วย

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : วิลเลียม ซาลิบา – อาร์เซนอล

ปราการหลังเฟรนช์แมน ได้รับความไว้วางใจจากกุนซืออย่าง มิเกล อาร์เตต้า ที่ยืนกรานชัดเจนว่าต้องการให้แนวรับรายนี้ที่โดนปล่อยยืมตัวมาโดยตลอดนับตั้งแต่อยู่กับไอ้ปืนใหญ่ กลับมาช่วยเสริมแกร่งในเกมรับในทีมชุดใหญ่ฤดูกาลนี้ ซึ่งตัวนักเตะเองก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ขันเกมรับของ เดอะ กันเนอร์ส ให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน

โดยเขาสามารถช่วยทีมเก็บคลีนชีทได้ถึง 7 จาก 14 เกมที่ลงเล่น และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ อาร์เซนอล ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงและมีโอกาสสูงในการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ อีกทั้งเขายังมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2022 อีกด้วย

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : ลิซานโดร มาร์ติเนซ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

การมาย้ายเข้ามาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษของแนวรับชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ทำให้เขาโดนวิจารณ์ตั้งแต่ต้นฤดูกาลว่าไม่สามารถที่จะเล่นในลีกที่มีความเข้มข้นสูงแบบนี้ได้ด้วยส่วนสูงเพียง 175 เซนติเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มาร์ติเนซ ได้แสดงทุกคนได้เห็นแล้วว่ารูปร่างของเขาไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียเปรียบแต่อย่างใด เขามีเหลี่ยมบอลที่ดี, การเข้าปะทะที่ชัวร์, หนักแน่น และมีการออกบอลจากแดนหลังอย่างชาญฉลาด ทำให้เขากลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คตัวหลักของทีมตั้งแต่ต้นซีซั่น ช่วยยกระดับเกมรับของปีศาจแดงได้อย่างชัดเจน

แบ็คซ้าย : เจา คันเซโล – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แม้ตัวนักเตะจะถนัดเท้าขวา และเคยเล่นอยู่ฝั่งขวามาก่อน แต่เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จับเขามาเล่นฝั่งซ้าย เขากลับทำผลงานได้ดีเหลือเชื่อ เพิ่มมิติในการเล่นของทีมเรือใบสีฟ้าได้อย่างชัดเจน นอกจากเกมรับที่เหนียวแน่นแล้ว คันเซโล ยังมีทีเด็ดในเกมรุกอีกด้วย เขามักจะขยับเข้ามาเล่นตรงกลางช่วยทีมวางบอล, เติมเกมรุก, สอดขึ้นมาทำประตูและแอสซิสต์อยู่บ่อยครั้ง โดยในฤดูกาลนี้เขาทำไปแล้ว 2 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์

กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ในช่วงหลังเขามักจะมีชื่อติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมตลอด เนื่องจากผลงานและฟอร์มการเล่นของเขานั้นไม่เคยดร็อปลงเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นหัวใจในแดนกลางของยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ฝั่งสีฟ้ามาโดยตลอด โดยในฤดูกาลนี้ การเข้ามาของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ทำให้ เดอ บรอยน์ มีเป้าหมายและช่องทางในการสร้างสรรค์เกมรุกมากขึ้น และแน่นอนว่า เขาสามารถทำแอสซิสต์ได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้นกว่าปกติ โดยตอนนี้เขาทำไปแล้ว 13 แอสซิสต์แถมยังยิงได้อีก 3 ประตู

กองกลาง : กรานิต ชาก้า – อาร์เซนอล

แม้ว่าในช่วงฤดูกาลก่อน ๆ มิดฟิลด์ทีมชาติสวิซเซอร์แลนด์รายนี้ เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลของไอ้ปืนใหญ่อยากให้สโมสรโละทิ้งมากที่สุด ด้วยวิธีการเล่นที่โฉ่งฉ่างและไม่มีความเป็นผู้นำในแดนกลาง แต่ในฤดูกาลนี้ เรื่องราวกลับเปลี่ยนไปเป็นหนังคนละม้วน ชาก้า มีฟอร์มการเล่นที่นิ่งขึ้น ละเอียดขึ้น

ช่วยกรองเกมรับตัดเกมให้ก่อนตั้งแต่ตรงกลางสนาม ทำให้เหล่ากองหลังของทีมนั้นเล่นง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเขายังเสริมในเรื่องของการเล่นเกมรุกมาอีกด้วย โดยเขามีส่วนร่วมมากขึ้นหลังทำไปแล้ว 4 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์

กองกลาง : เจมส์ แมดดิสัน – เลสเตอร์ ซิตี้

เป็นที่รู้กันดีว่า ในฤดูกาลนี้ ทัพจิ้งจอกสยามของ แบรนเดน ร็อดเจอร์ส ออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างย่ำแย่ ถึงขั้นตกไปอยู่บ๊วยของตารางคะแนนมาแล้ว ในขณะที่ตอนนี้พวกเขาหลุดพ้นจุดนั้นมาได้แล้ว ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 13 ของตาราง และหนึ่งในนักเตะที่ควรได้รับเครดิตนั่นก็คือ เจมส์ แมดดิสัน เป็นทุกอย่างในแดนกลางของ เดอะ ฟ็อกซ์ ในซีซั่นนี้

เขาโดดเด่นทั้งเกมรับและรุก ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้มาแล้วหลายนัด โดยเฉพาะในเกมรุก ที่ในซีซั่นนี้เขาทำไปแล้ว 7 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ จนทำให้ฟอร์มไปเข้าตาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ก่อนจะถูกเรียกติดทีมไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 แล้วเรียบร้อย

กองหน้าฝั่งขวา : มิเกล อัลมิรอน – นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

นับตั้งแต่เขาโยกจาก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ มาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทัพสาลิกาดง ตัวของ อัลมิรอน ก็มีพัฒนาการให้เห็นอยู่ทุก ๆ ฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่เขากลายเป็นหัวใจในเกมรุกอย่างสมบูรณ์แบบ ความเร็วของปีกขวาทีมชาติปารากวัยทำให้กองหลังของทีมคู่แข่งหัวหมุนกันมาเยอะแล้ว

แถมการจบสกอร์ของเขาก็ยอดเยี่ยมอีกด้วย หลังทำไปแล้ว 8 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมต้นสังกัดอย่าง เดอะ แม็กพาย มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมจนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ของตาราง มีโอกาสเบียดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ในตอนนี้

กองหน้าตัวเป้า : เออร์ลิง ฮาแลนด์ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ชื่อของดาวเตะชาวนอร์เวย์รายนี้จะหลุดออกจากทีมยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นจากสื่อไหนก็ตามแต่ เนื่องจากเขามีฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงสุด ๆ ในฤดูกาลแรกของเขากับเรือใบสีฟ้าและลีกสูงสุดของอังกฤษจริง ๆ สมัยที่เขาเล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาก็ทำประตูได้ถล่มทลายอยู่แล้ว แต่

เมื่อเขาย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ที่มีเพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งอย่าง เดอ บรอยน์ คอยป้อนบอลให้ ทำให้ตัวของดาวยิงวัย 22 กะรัตรายนี้นั้นยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก โดยในฤดูกาลนี้เขาถลุงไปแล้ว 23 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเพียงแค่ 18 นัดเท่านั้นทุกรายการ

กองหน้าฝั่งซ้าย : กาเบรียล มาร์ติเนลลี – อาร์เซนอล

แนวรุกเลือดแซมบ้า พัฒนาฟอร์มการเล่นมาโดยตลอดในยุคของ มิเกล อาร์เตต้า โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่เขามีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างเต็มตัว มาร์ติเนลลี เป็นแนวรุกที่มีความเร็วจัดและไปกับบอลได้ดี ทำให้เขาสร้างปัญหาให้กับกองหลังคู่แข่งอยู่ตลอด

โดยฤดูกาลที่แล้ว เขามีสถิติทำไป 6 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 36 นัด ในขณะที่ฤดูกาลนี้ เขาทำไปแล้ว 5 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์จากการลงเล่น 20 นัด แถมล่าสุดเขายังมีชื่อติดทีมชาติบราซิลของ ติเต้ ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม ข่าวฟุตบอล